ราคาพิเศษ
ผ่าน ไลน์ไอดี: @onestockhome
คอนกรีต ZBDM24A000 หมายถึง คอนกรีตที่มีกำลังอัด 240ksc (Cube) หรือ 210 ksc (Cylinder นั่นเอง)
ตารางเปรียบเทียบ | |
CUBE | CYLINDER |
180 = | 140 |
210 = | 180 |
240 = | 210 |
280 = | 240 |
300 = | 250 |
320 = | 280 |
350 = | 300 |
380 = | 320 |
400 = | 350 |
420 = | 380 |
450 = | 400 |
480 = | 420 |
500 = | 450 |
550 = | 500 |
600 = | 550 |
650 = | 600 |
850 = | 800 |
- มีกำลังอัดให้เลือกใช้ ตั้งแต่ 180-400 กก./ตร.ซม. (ทรงลูกบาศก์)
- มีค่ายุบตัว ให้เลือกใช้ให้เหมาะกับโครงสร้างและวิธีการเท 3 ระดับ คือ
- 7.5 +/- 2.5ซม.
- 10.0 +/- 2.5ซม.
- 12.5 +/- 2.5ซม.
- ลดปัญหาการผสมมือที่มีส่วนผสมที่ไม่แน่นอน และได้กำลังอัดไม่เป็นไปตามที่ออกแบบไว้
- สำหรับโครงสร้างพื้น ควรเลือกคอนกรีตผสมเสร็จ ที่มีกำลังอัด เหมาะสมกับการใช้งาน และมีขั้นตอนการเตรียมงานและการทำงานพื้นที่ถูกต้องตามมาตรฐาน เพื่อให้งานพื้นได้คุณภาพและใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น
การบ่มคอนกรีต
ระยะเวลาในการบ่ม หากทำการบ่มชื้น คอนกรีตที่ใช้ปอร์ตแลนด์ซีเมนต์ประเภทที่ 1 อย่างต่อเนื่อง 7 วัน กำลังอัดที่ได้เมื่ออายุ 28 วัน เท่ากับการบ่มชื้นต่อเนื่อง 28 วัน ดังนั้นจึงควรทำการบ่มคอนกรีสำหรับคอนกรีตที่ใช้ปอร์ตแลนด์ซีเมนต์ประเภทที่ 1 เป็นเวลา 7 วัน สำหรับคอนกรีตที่ใช้ปอร์ตแลนด์ซีเมนต์ประเภทที่ 3 ควรบ่มอย่างน้อย 3 วัน พึงตระหนักว่าการปล่อยปะละเลยไม่เอาใจใส่ต่อการบ่ม ส่งผลเสียต่อกำลังอัดคอนกรีตอย่างมาก ต้องป้องกันอย่าให้คอนกรีตได้รับความสะเทือน และเมื่อพ้นระยะเวลา 24 ชั่วโมงหรือเมื่อคอนกรีตแข็งตัวแล้วต้องทำการบ่มทันที
วิธีการบ่ม การบ่มในสภาพอุณหภูมิปกติ สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 วิธี คือ การเพิ่มความชื้นและวิธีป้องกันการสูญเสียความชื้น
1. การเพิ่มความชื้น เป็นการเพิ่มความชื้นต่อหน้าผิวของคอนกรีตโดยตรง หลังจากคอนกรีตแข็งตัวแล้ว โดยการขังน้ำ ฉีดน้ำ พรมน้ำ และใช้วัสดุเปียกชื้นคลุม วิธีการนี้เป็นวิธีการบ่มที่ดี และ ช่วยลดอุณหภูมิที่ผิวคอนกรีต
วิธีการบ่ม | ข้อได้เปรียบ | ข้อเสียเปรียบ |
1. การขังน้ำ เหมาะสมกับงานคอนกรีตที่มีพื้นที่ราบ เช่น แผ่นพื้นทั่วไป ดาดฟ้า พื้นสะพาน ถนนทางเท้า สนามบิน วิธีการ ทำได้โดยใช้ดินเหนียวหรือก่ออิฐทำเป็นคันโดยรอบของงานคอนกรีตที่จะบ่ม และควรระวังอย่าให้น้ำที่ใช้บ่มมีอุณหภูมิต่ำกว่าคอนกรีตเกิน 10 องศา |
1. ทำได้สะดวก ง่าย ราคาถูก 2. วัสดุหาได้ง่าย เช่น ดินเหนียว และน้ำ 3. ใช้คนงานระดับกรรมกรทำได้ 4. ซ่อมแซมได้สะดวก รวดเร็ว และประหยัดค่าใช้จ่าย ตัวอย่างเช่น ทำคันดินเหนียว และพังก็สามารถซ่อมได้ทันที |
1. ต้องหมั่นตรวจดูรอยแตกร้าว ของดินเหนียวที่นำมาใช้อยู่เสมอ มิให้น้ำซึมหนี 2. ต้องทำความสะอาดบริเวณคอนกรีตที่บ่ม เมื่องานบ่มเสร็จเรียบร้อยแล้ว |
2. การฉีดน้ำหรือพรมน้ำ วิธีการนี้ใช้ได้ทั้งแนวราบ และแนวดิ่ง เช่น ผนังกำแพง พื้น |
1. ทำได้สะดวก ได้ผลดี 2. ค่าใช้จ่ายถูก 3. ใช้คนงานระดับกรรมกรได้ 4. ไม่ต้องดูแลตลอดเวลา |
1. ไม่เหมาะสมกับสถานที่ที่หาน้ำได้ยาก 2. ไม่สะดวกกับการฉีดกับกำแพงในแนวดิ่ง เพราะน้ำจะแห้งเร็ว |
3. การใช้วัสดุเปียกชื้นคลุม เช่น ผ้าใบ กระสอบ หรือวัสดุอื่นที่อุ้มน้ำได้ดี ถ้าเป็นผ้าใบ ควรใช้สีขาว เพราะสะท้อนความร้อนได้ดี และรอยต่อต้องเหลื่อมกันให้มาก ถ้าใช้ฟางหรือขี้เลื่อย ควรคลุมให้ทั่ว หนามากกว่า 15 ซม. และฉีดน้ำให้ชุ่มอยู่เสมอ |
1. ได้ผลดีมาก คุ้มต่อการลงทุน 2. ทำได้ทั้งแนวราบ และแนวดิ่ง 3. ใช้คนงานระดับกรรมกรทำได้ 4. สามารถหาวัสดุมาใช้ได้ง่าย |
1. ถ้าอากาศร้อน จะแห้งเร็ว 2. ถ้าพื้นที่กว้าง การใช้ผ้าใบคลุม จะเปลืองค่าใช้จ่าย 3. ต้องฉีดน้ำให้ชุ่มอยู่เสมอ 4. ต้องพิจารณาก่อนที่จะนำวัสดุใดมาใช้ ว่าวัสดุนั้นเป็นอันตรายต่อซีเมนต์ หรือหน้าผิวคอนกรีตหรือไม่ |
2. วิธีป้องกันการเสียน้ำจากเนื้อคอนกรีต วิธีการนี้ป้องกันความชื้นจากผิวคอนกรีตมีให้ระเหยออกสู่ภายนอก การบ่มด้วยวิธีนี้ทำใด้หลายวิธี
วิธีการบ่ม | ข้อได้เปรียบ | ข้อเสียเปรียบ |
1. การใช้กระดาษกันน้ำซึมคลุม กระดาษนี้ ทำด้วยกระดาษเหนียว ยึดติดกันด้วยกาว ประเภทยางมะตอยและเสริมความเหนียวด้วยใยแก้ว และมีคุณสมบัติยืดหดตัวไม่มาก วิธีการ ใช้รอยต่อควรเหลื่อมกันให้มากพอสมควร และผนึกรอยต่อติดแน่นด้วยกาวหรือเทป หรือทรายก็ได้ |
1. ทำได้สะดวกรวดเร็ว 2. ป้องกันคอนกรีตไม่ให้แห้งได้เร็ว แต่ต้องคอยราดน้ำไว้ด้วย 3. ใช้คนงานระดับกรรมกรได้ |
1. ราคาแพง 2. ไม่สะดวกในการปฏิบัติงาน 3. ไม่สะดวกในการเก็บรักษาต่อไป เมื่อนำมาใช้งานต่อ |
2. ใช้แผ่นพลาสติกคลุม เป็นวัสดุที่มีน้ำหนักเบา และสามารถใช้คลุมงานคอนกรีตที่จะบ่มได้ทันทีที่ต้องการ |
1. มีน้ำหนักเบา ปฏิบัติงานง่าย 2. ได้ผลดีจากการป้องกันน้ำระเหยออกไปจากคอนกรีต 3. ไม่ต้องราดน้ำให้ชุ่มอยู่ภายใน |
1. บางมาก ชำรุดง่าย 2. ต้องหาของหนักทับเพื่อกันปลิว 3. ราคาแพง ถ้าใช้ในการคลุมงานคอนกรีตที่กว้างมาก |
3. การบ่มด้วยน้ำยาเคมีเคลือบผิวคอนกรีต มีหลายสีด้วยกัน เช่น ใสขาว เทาอ่อน และดำ สำหรับสีขาวจะเหมาะกว่า เพราะสะท้อนความร้อนและแสงได้ดีกว่า โดยการใช้พ่นคลุมพื้นผิวคอนกรีตที่ต้องการใช้งานเร็วๆ เช่น ลานบิน หลังคากว้างมาก งานพิเศษ หรือตึกสูง ที่นำส่งขึ้นไปได้ลำบาก |
1. สะดวกรวดเร็ว 2. ได้ผลดีพอสมควร ถ้าน้ำยานั้นเป็นของแท้ และมีความเข้มข้น ตามมาตรฐานของผู้ผลิต 3. ไม่ต้องคอยรดน้ำ 4. ไว้ใช้ในกรณีที่มีการบ่มด้วยวิธีอื่นไม่ได้ผล |
1. ค่าใช้จ่ายสูง 2. ต้องจัดเตรียมเครื่องมือสำหรับการพ่นทุกครั้ง 3. ต้องใช้บุคลากรที่เคยทำการพ่นมาก่อน 4. น้ำยาเคมีที่ใช้ อาจทำอันตรายแก่ผู้อยู่ในระยะใกล้เคียงได้ |
4. การบ่มโดยใช้ไม้หล่อ ต้องพ่นน้ำให้ไม้มีความชื้นอยู่เสมอ ไม้แบบจะป้องกันการเสียความชื้นได้ดีมาก ฉะนั้นควรรักษาไม้แบบไว้ให้นานที่สุด หลังจากถอดแบบแล้ว จึงใช้วิธีอื่นต่อไป | 1. ทำได้สะดวก 2. ใช้คนงานระดับกรรมกรทำได้ |
1. ต้องใช้ไม้แบบจำนวนมาก 2. ช้า เพราะต้องรอไม้แบบไปใช้งานอื่นต่อไป 3. ถ้าเป็นไม้แบบเก่า ต้องเสียเวลาทำความสะอาด |
[ตะกร้าสินค้า] | |
|
||||||||||
|
||||||||||
|