ไม้อัด plywood มีลักษณะเป็นแผ่นบาง นิยมใช้ทำเป็นแบบหล่อทดแทนไม้กระดานได้เป็นอย่างดี
เหมาะสำหรับงานแบบหล่อที่มีพื้นที่กว้าง เช่น หล่อพื้น หรือผนังคอนกรีต
ค่าแรงในการประกอบติดตั้งมีราคาถูกกว่าการใช้ไม้แปรรูป หลังจากถอดแบบหล่อออกแล้ว
ได้ผิวคอนกรีตเรียบกว่าไม้กระดาน เพื่อยืดอายุการใช้งานแบบหล่อคอนกรีตที่ใช้ไม้อัด
ควรทำกรอบรอบไม้อัดเป็นโครง ด้วยไม้หรือเหล็กฉาก เพื่อให้แข็งแรง ทนทาน
ต่อแรงกระแทกจากการประกอบและการถอดแบบหล่อและควรทาแบบด้วยแลคเกอร์ สีน้ำมัน หรือน้ำยาเคลือบแบบหล่อ
เพื่อลดการดูดซึมน้ำปูนจากคอนกรีต หากแบบหล่อไม้อัดมีลักษณะเริ่มพองตัวหรือแยกตัวเป็นชั้น
แสดงถึงการหมดสภาพการใช้งาน ควรหลีกเลี่ยงการนำมาใช้งานซ้ำ และเพื่อความประหยัดควรจัดวางแผ่นไม้อัดลงตัว
และเศษของแผ่น ควรจัดให้สมมาตรกัน
เดิมมักจะใช้ไม้ที่ความหนา 1 - 1.5 นิ้ว มีหน้ากว้างตั้งแต่ 6 8 หรือ 10 นิ้ว ที่เรียกติดปากกันว่า "ไม้แบบ" เนื่องจากไม้มีราคาถูก ตัดใช้งานได้หลายรูปแบบ
และหาซื้อได้ง่าย แต่ปัจจุบัน ได้มีการพัฒนาไม้แบบให้กลายเป็นแผ่นไม้อัดเคลือบฟิล์ม ที่เรียกว่า
ไม้อัดฟีโนลิค หรือ ไม้อัดดำ ที่จะช่วยป้องกันปูนไม่ให้ยึดติดกับแผ่นไม้ ทำให้ถอดแบบได้สะดวก
และสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้อีก นอกจากนี้ ยังมีวัสดุแบบอื่นๆที่เริ่มนิยมนำมาใช้เช่นกัน เช่น ไฟเบอร์กลาส
พลาสติก เป็นต้น ซึ่งแบบหล่อคอนกรีตเหล่านี้จะถูกพัฒนาขึ้น เพื่อความสะดวกในการทำงาน
เนื่องจากใช้งานง่ายขึ้น ติดตั้งรวดเร็ว สามารถสั่งผลิตได้ตามต้องการ และยังช่วยให้ผิวคอนกรีตที่ออกมา เรียบ
เนียนกว่า รวมถึงมีความคุ้มค่ามากกว่า เพราะมีอายุการใช้งานยาวนาน และสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้
ขนาดมาตรฐานของไม้อัดในท้องตลาดคือ 4x8ฟุต หรือ 1.22x2.44เมตร มีความหนาหลายขนาด ตั้งแต่ 3.2, 4, 6, 10, 15,
และ 20มม. มีการผลิต 2 ประเภท คือสำหรับใช้งานภายใน และสำหรับใช้งานภายนอก ข้อดีของไม้อัดอีกอย่างคือ
สามารถทำแบบหล่อที่มีรูปร่างโค้งได้ดี โดยการใช้เลื่อยบากผิดไม้อัด ให้มีความกว้างประมาณ 3 ครองเลื่อย
แล้วจึงค่อยๆดัดรูปทรงไม้อัดให้โค้งได้ตามต้องการ
ในการก่อสร้างอาคารคอนกรีตทั่วไป แบบหล่อไม้ อาจมีราคาสูงถึง 10-15% ของค่าใช้จ่ายในส่วนโครงสร้างทั้งหมด
ในบางงาน ราคาของแบบหล่ออาจสูงกว่านี้ เนื่องจากเป็นงานที่ต้องการความประณีต เช่น สะาน โครงสร้างพื้นไร้คาน
งานคอนกรีตเปลือย Exposed Concrete เป็นต้น
|
